นวัตกรรมใหม่ในการออกแบบเครื่องยนต์เจ็ทสำหรับเครื่องบินพาณิชย์
27 พ.ย. 2567

นวัตกรรมใหม่ในการออกแบบเครื่องยนต์เจ็ทสำหรับเครื่องบินพาณิชย์

วิศวกรการบินได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ในการออกแบบเครื่องยนต์เจ็ท ที่สามารถลดการใช้เชื้อเพลิงได้ถึง 25% และลดมลพิษทางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้วัสดุคอมโพสิตน้ำหนักเบาและระบบการเผาไหม้แบบใหม่

เครื่องยนต์เจ็ท

ดร.สมชาย วิศวกรรม หัวหน้าทีมวิจัยและพัฒนาเครื่องยนต์อากาศยาน เปิดเผยว่า การพัฒนาเครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้ใช้เวลาวิจัยกว่า 5 ปี โดยทีมวิศวกรได้นำเทคโนโลยี AI มาช่วยในการออกแบบและจำลองการทำงานของเครื่องยนต์ ทำให้สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างแม่นยำ

นวัตกรรมสำคัญของเครื่องยนต์รุ่นนี้คือการใช้ระบบการเผาไหม้แบบ Ultra-Lean Burn ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ได้ถึง 80% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นก่อน นอกจากนี้ยังมีการใช้วัสดุเซรามิกคอมโพสิตในส่วนของเทอร์ไบน์ ทำให้ทนความร้อนได้สูงขึ้นและมีน้ำหนักเบากว่าเดิม

คาดว่าเครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้จะเริ่มใช้งานจริงในเครื่องบินพาณิชย์ภายในปี 2026 ซึ่งจะช่วยให้สายการบินต่างๆ ประหยัดต้นทุนด้านเชื้อเพลิงและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ได้มีสายการบินชั้นนำหลายแห่งแสดงความสนใจและวางแผนที่จะนำไปใช้ในฝูงบินของตน

การพัฒนาเครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานด้านการบินระดับนานาชาติ โดยเฉพาะองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากอุตสาหกรรมการบิน

ในด้านการผลิต ทีมวิจัยได้ร่วมมือกับผู้ผลิตชิ้นส่วนอากาศยานชั้นนำหลายแห่ง เพื่อพัฒนากระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า โดยใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติขั้นสูงในการผลิตชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อน

  • ลดการใช้เชื้อเพลิงได้ถึง 25%
  • ลดการปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ได้ 80%
  • อายุการใช้งานยาวนานขึ้น 30%
  • ต้นทุนการบำรุงรักษาลดลง 40%
  • น้ำหนักเบากว่ารุ่นเดิม 15%

การทดสอบภาคพื้นดินได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเครื่องยนต์รุ่นเดิมในทุกด้าน โดยเฉพาะในสภาวะการบินที่ระดับความสูงต่างๆ ซึ่งเครื่องยนต์สามารถรักษาประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างคงที่

นอกจากนี้ ระบบควบคุมอัจฉริยะของเครื่องยนต์ยังสามารถปรับการทำงานให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและเส้นทางการบินได้โดยอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดภาระของนักบินในการควบคุมเครื่องยนต์

ทีมวิจัยยังได้พัฒนาระบบการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ (Predictive Maintenance) ที่ใช้เซ็นเซอร์และ AI ในการติดตามสภาพการทำงานของเครื่องยนต์แบบเรียลไทม์ ช่วยให้สามารถคาดการณ์และป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า

โครงการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการการบินที่จะช่วยผลักดันให้การเดินทางทางอากาศเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และเป็นต้นแบบสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีการบินในอนาคต